ดู๋..ดู่..ดู..ดูมันทำ
2 posters
เธซเธเนเธฒ 1 เธเธฒเธ 1
ดู๋..ดู่..ดู..ดูมันทำ
ภาณุวัฒน์ Tue Jun 17, 2008 9:07 pm
พบอีกไม่ยืนถวายความเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี แถบย้ายที่นั่งยกเท้าพาดเก้าอี้ ตร.เรียกสอบปากคำยังต่อรองขอดูหนังจบก่อน[/size]
วันนี้ (15 มิ.ย.) เมื่อเวลา 17.30 น. พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช ผกก.สน.พหลโยธิน [size=15pt]รับแจ้งว่ามีผู้ไม่ยืนถวายความเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี ภายในโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพลกซ์ ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร[/size] จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน ก็พบหญิงสาว 1 รายกำลังยืนโวยวายอยู่ท่ามกลางวงล้อมของผู้ที่เข้าไปชมภาพยนตร์จำนวนหนึ่งด้วยความไม่พอใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไประงับเหตุ ก่อนจะพยายามเกลี้ยกล่อมและเชิญตัวหญิงคนดังกล่าวมาสอบปากคำที่ สน.พหลโยธิน ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.รัชพิณ จันทร์เจริญ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 ถนนบางรัก ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบสวนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เบื้องต้นให้การว่า ก่อนภาพยนตร์เรื่องที่เข้าไปชมจะเริ่มฉาย [size=17pt]ในโรงภาพยนตร์ได้มีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีขึ้นตามปกติ โดยทุกคนในโรงก็ยืนกันถวายความเคารพกันหมด มีเพียง น.ส.รัชพิณ เท่านั้นที่ยังนั่งอยู่ ซึ่งหลังจากเพลงบรรเลงไปได้จนถึงท่อนที่สอง น.ส.รัชพิณ ก็ย้ายที่นั่งจากแถวอีไปนั่งด้านหน้าคนเดียว พร้อมทั้งยกเท้าขึ้นมาพาดบนเก้าอี้ [/size] ซึ่งบรรดาผู้ที่อยู่ในโรงภาพยนตร์ก็เห็นเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา จึงปรึกษากันว่าควรเชิญตัว น.ส.รัชพิณ ออกไปจากโรงภาพยนตร์ โดยหลังจากนั้นก็มีพนักงานของโรงภาพยนตร์เข้ามาพูดคุยเพื่อให้ [size=15pt]น.ส.รัชพิณ ยืนถวายความเคารพ และเอาเท้าลงจากเก้าอี้ แต่ น.ส.รัชพิณ ก็ไม่สนใจ[/size] พนักงานของโรงภาพยนตร์จึงเดินออกไป
วันนี้ (15 มิ.ย.) เมื่อเวลา 17.30 น. พ.ต.อ.อาคม จันทนลาช ผกก.สน.พหลโยธิน [size=15pt]รับแจ้งว่ามีผู้ไม่ยืนถวายความเคารพเพลงสรรเสริญพระบารมี ภายในโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพลกซ์ ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร[/size] จึงไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน ก็พบหญิงสาว 1 รายกำลังยืนโวยวายอยู่ท่ามกลางวงล้อมของผู้ที่เข้าไปชมภาพยนตร์จำนวนหนึ่งด้วยความไม่พอใจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไประงับเหตุ ก่อนจะพยายามเกลี้ยกล่อมและเชิญตัวหญิงคนดังกล่าวมาสอบปากคำที่ สน.พหลโยธิน ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.รัชพิณ จันทร์เจริญ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 ถนนบางรัก ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบสวนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เบื้องต้นให้การว่า ก่อนภาพยนตร์เรื่องที่เข้าไปชมจะเริ่มฉาย [size=17pt]ในโรงภาพยนตร์ได้มีการเปิดเพลงสรรเสริญพระบารมีขึ้นตามปกติ โดยทุกคนในโรงก็ยืนกันถวายความเคารพกันหมด มีเพียง น.ส.รัชพิณ เท่านั้นที่ยังนั่งอยู่ ซึ่งหลังจากเพลงบรรเลงไปได้จนถึงท่อนที่สอง น.ส.รัชพิณ ก็ย้ายที่นั่งจากแถวอีไปนั่งด้านหน้าคนเดียว พร้อมทั้งยกเท้าขึ้นมาพาดบนเก้าอี้ [/size] ซึ่งบรรดาผู้ที่อยู่ในโรงภาพยนตร์ก็เห็นเหตุการณ์อยู่ตลอดเวลา จึงปรึกษากันว่าควรเชิญตัว น.ส.รัชพิณ ออกไปจากโรงภาพยนตร์ โดยหลังจากนั้นก็มีพนักงานของโรงภาพยนตร์เข้ามาพูดคุยเพื่อให้ [size=15pt]น.ส.รัชพิณ ยืนถวายความเคารพ และเอาเท้าลงจากเก้าอี้ แต่ น.ส.รัชพิณ ก็ไม่สนใจ[/size] พนักงานของโรงภาพยนตร์จึงเดินออกไป
ภาณุวัฒน์- เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 9
Registration date : 17/06/2008
Re: ดู๋..ดู่..ดู..ดูมันทำ
ภาณุวัฒน์ Tue Jun 17, 2008 9:17 pm
บรรดาผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ กล่าวต่อว่า [size=17pt]หลังจากนั้นเมื่อเพลงสรรเสริญจบลง น.ส.รัชพิน ก็ร้องตะโกนเป็นคำหยาบ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ [/size] จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาภายในโรงภาพยนตร์ พร้อมกับเจรจากับ น.ส.รัชพิณ ก่อนเชิญตัวไปสอบปากคำที่ สน.พหลโยธิน แต่ น.ส.รัชพิณ ต่อรองกับเจ้าหน้าที่ว่า ขอดูภาพยนตร์จนจบก่อนที่จะไปโรงพักด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรอจนภาพยนตร์จบก่อนเชิญตัว น.ส.รัชพิณ มาสอบปากคำที่โรงพัก [size=15pt]ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ทุกคนเห็นว่าเป็นการเป็นการแสดงความไม่เคารพต่อพระมหากษัตริย์และดูหมิ่นสถาบันเป็นอย่างมาก จึงรวมตัวกันมาให้ปากคำที่ สน.พหลโยธิน[/size]
ต่อมาเวลา 20.30 น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 ได้เดินทางมาสอบปากคำ น.ส.รัชพิณ ด้วยตนเองก่อนเปิดเผยว่า [size=15pt]ขณะนี้ น.ส.รัชพิณ ยังคงไม่ให้การใดๆ บอกแต่เพียงว่า อยากทำเท่านั้น แต่เท่าที่สอบปากคำแล้ว ลักษณะของ น.ส.รัชพิณ คล้ายกับคนมีอาการทางประสาทและพูดจาหยาบคาย ซึ่งหลังจากนี้จะได้นำตัว น.ส.รัชพิณ ส่งให้แพทย์ตรวจว่า มีอาการทางประสาท หรือเคยเข้ารับการรักษาอาการทางประสาทที่ไหนบ้างหรือไม่ [/size] อย่างไรก็ตาม [size=20pt]ได้แจ้งข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์[/size]
ต่อมาเวลา 20.30 น. พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 ได้เดินทางมาสอบปากคำ น.ส.รัชพิณ ด้วยตนเองก่อนเปิดเผยว่า [size=15pt]ขณะนี้ น.ส.รัชพิณ ยังคงไม่ให้การใดๆ บอกแต่เพียงว่า อยากทำเท่านั้น แต่เท่าที่สอบปากคำแล้ว ลักษณะของ น.ส.รัชพิณ คล้ายกับคนมีอาการทางประสาทและพูดจาหยาบคาย ซึ่งหลังจากนี้จะได้นำตัว น.ส.รัชพิณ ส่งให้แพทย์ตรวจว่า มีอาการทางประสาท หรือเคยเข้ารับการรักษาอาการทางประสาทที่ไหนบ้างหรือไม่ [/size] อย่างไรก็ตาม [size=20pt]ได้แจ้งข้อหาหมิ่นประมาท ดูหมิ่น และแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์[/size]
ภาณุวัฒน์- เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 9
Registration date : 17/06/2008
คุณรัชพิณ จันทร์เจริญ
chak09 Tue Jun 17, 2008 10:01 pm
ไม่แน่ใจว่า การนำภาพของคุณรัชพิณ จันทร์เจริญ มาเผยแพร่ให้ทราบนั้น จะเป็นผลร้ายต่อเจ้าตัวหรือไม่
แต่คิดว่า หากเจ้าตัวกล้าแสดงออก ก็น่าจะกล้าจะเผยตัว ถามว่า จะเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลเหรือไม่
อันนี้ตอบยาก เพราะภาพนี้ก็นำมาจากเดลินิวส์ อาจจะต้องโทษต้นตอที่นำเสนอข่าว
http://www.dailynews.co.th/forums2007/default.aspx?g=posts&t=1948
และมีประวัติบางส่วนจากในเน็ต
https://www.regis.ku.ac.th/query_course.php?TSm=2&TYr=44&qStd_id=42100321&TCs_Code=402311&TLec=1&TLab=0
ยิ่งแสดงออกมาเท่าไหร่ก็เจ็บตัวเท่านั้น ถามว่า การเรียนสูง เรียนมาก เรียนน้อย ทำให้คนกล้าแสดงออกแล้วเกิดปัญหาขึ้นมา จะเกิดประโยชน์ต่อสังคมหรือสมาชิกครอบครัวหรือไม่
ประเด็นสถาบัน ควรที่จะคิดกันอย่างรอบคอบ ในยุคโลกาภิวัฒน์ ระบบสถาบันจะอยู่ในสภาพใด ก็ขึ้นอยู่สภาวะแวดล้อมหลายประการ สถาบันเองต้องปรับตัว สังคมก็ต้องปรับตัว ทั้งสองฝ่ายเข้าหากัน จึงจะอยู่ร่วมกันได้
อยากให้คิดถึงในอดีตว่าสถาบันมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นเกียรติยศของชนชาติอย่างยิ่ง ทุกชาติล้วนตระหนักดี
แต่เมื่อเวลาผ่านไป สถาบันต่างก็ปรับตัวไปตามกาลเวลา ขึ้นกับว่าจะออกมาในทิศทางใด ในจีน รัสเซีย ฝรั่งเศส อิหร่าน และเนปาล ล้วนแสดงให้เห็นชัดว่า สถาบันในของชาติเหล่านั้น วางตัวอย่างไร จึงถึงคราวล่มสลาย โดยเฉพาะที่เนปาลที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้
อยากให้สังคมไทยช่วยคิดว่า สถาบันของไทยได้ทุกคุณประโยชน์เหลือคณานับ แตกต่างจากชาติอื่นมากมายยิ่ง ใครจะว่าเป็นพวกคลั่งจ้าว ก็ได้ แต่ถามว่า ถ้าคลั่งจ้าวแล้วมีสติ ไม่ไปสร้างปัญหาก็คงไม่มีเรื่อง
ถามอีกว่า การยืนทำความเคารพเพลงสรรเสริญนั้น ได้มีการดำเนินการมาตามลำดับ จนอาจถือว่าเป็นวัฒนธรรมของชาติไทยไปแล้ว หากจะมีคนหนึ่งคนใดไม่ทำตามวัฒนธรรม ก็คิดว่าคงไม่ใช่เรื่องผิดร้ายแรงอะไรนัก เพราะเป็นเรื่องของวัฒนธรรม แต่หากมีกฎหมายมาเอาผิดด้วย ก็คงต้องว่ากันไปน้ำหนักของความผิดว่าจะแรงเพียงใด
สังคมก็คงจะต้องมีกติกา
คิดเอาเล่นๆ ว่า หากสังคมไทยทำเป็นเอาหูไปเอาตาไปไร่ กับนักกล้าแสดงออกเหล่านี้ได้หรือไม่ คงมีหลายคำตอบ แม้จะเป็นพวกคลั่งจ้าวก็ยังมีแนวคิดแตกต่างกัน บางคนก็บอกว่าปล่อยไว้อย่าไปสนใจ มันก็ไม่มีข่าวอะไร เช่น ให้ไปถามประชาชนทั่วไปในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น พ่อค้าแม่ค้า สิว่า รู้จัก อาจารย์ ส.ศิวรักษ์ หรือไม่ ก็จะได้รับคำตอบว่า ไม่รู้จัก แต่ถ้าไปถามนักวิชาการ และกลุ่ม เอ็นจีโอ. ก็คงจะรู้จักท่านกันดี เช่นเดียวกัน
อีก 5 เดือน หากไม่มี google ถามว่า ใครจะรู้จัก คุณรัชพิณ จันทร์เจริญ
อะไรถ้าปล่อยวางได้ ก็จะได้อยู่กันอย่างราบรื่นต่อไป
สังคมไทยคงไม่ต้องมาใช้วิธีการฟันต่อฟัน
chak09- เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 3
Registration date : 09/06/2008
Re: ดู๋..ดู่..ดู..ดูมันทำ
ภาณุวัฒน์ Tue Jun 17, 2008 10:47 pm
ไม่รู้จะมาจากกลุ่มเดียวกันรึเปล่าน่ะ
โชติศักดิ์ อ่อนสูง ผู้ไม่ยอมเคารพเพลงสรรเสริญ
ได้ อ่านกระทู้พันทิพ ไปสะดุดอยู่เรื่องนึง ( สะดุดอีกแล้ว-*-) เลยขออนุญาติ คุณโชติศักดิ์ อ่อนสูง เอามาลงถึงแม้กระทู้พันทิพจะหายไปหรือถูกลบไปแล้ว แต่ copy มาให้อ่านกัน คุณโชติศักดิ์ โพสไว้ในพันทิพดังนี้
เรื่องมันมีอยู่ว่า เมื่อวาน (20 กันยายน 2550) ผมและเพื่อนชื่อชุติมาได้เข้าไปดูหนังที่ชั้น 9 เซ็นทรัลเวิร์ล (หนังรอบ 19.15 น. แต่ผมเข้าโรงประมาณ 19.30 น.) และเมื่อถึงเพลงสรรเสริ­ผมและเพื่อนก็ไม่ได้ยืน (แต่นั่งด้วยความสงบ และได้หยุดรับประทานขนมและน้ำ) ซึ่งผมและเพื่อนปฏิบัติเช่นนี้มานานแล้ว ปรากฏว่าผม (คนเดียว)ถูกปาด้วยกระดาษที่ขยำเป็นก้อนขนาดเล็กกว่าลุกเท็นนิสถูกบริเวณต้นคอ ซึ่งผมก็ไม่ได้ทำอะไรเพราะเคยเจอแบบนี้มาแล้ว 1-2 ครั้ง ต่อมาเมื่อเพลงเล่นไปประมาณกลางเพลงชายคนหนึ่งที่นั่ง (ตอนนั้นเขายืน) อยู่ถัดเพื่อนผมไปทางซ้ายมือ 2-3 ที่นั่ง ทราบชื่อภายหลังว่าชื่อนายนวมินทร์ หันบอกให้ผมและเพื่อนลุกขึ้นยืนโดยเขาพูดเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งผมและเพื่อนก็ไม่ได้สนใจเขาจนเพลงจบชายคนนั้นจึงเดินไปตามพนักงานโรงหนังมา (ทราบเพียงชื่อเล่นว่า นิค) และบอกให้พนักงานคนดังกล่าวเชิ­ผมและเพื่อนออกไป พนักงงานจึงบอกกับเขาว่า "พี่ใจเย็นๆ" และผมได้บอกกับพนักงานว่า "ผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมทำไม่ผิด แต่ต่อให้ผิดโรงหนังก็ไม่ต้องกลัวเดือดร้อน เพราะไม่เกี่ยวกับโรงหนัง" หลังจากนั้นพนักงานก็ถอยไปยืนบริเวณทางเดินด้านข้าง ชายคนนั้นจึงลุกขึ้นยืนแล้วกรีดร้องและเริ่มด่าผมและเพื่อน เช่น ทุเรศ , ทำไมไม่รักในหลวง เป็นคนไทยซะเปล่า ขนาดฝรั่งยังยืนเลย พร้อมกับไล่ผมและเพื่อนให้ออกไปจากโรงด้วยอาการที่เกรี้ยวกราด ซึ่งระหว่างนั้นเขามีม้วนกระดาษอยู่ในมือและใช้มันชี้หน้าเพื่อนของผมอยู่ตลอดเวลา และเมื่อเขาพูดจบ (รอบแรก) คนอื่นๆในโรงก็ปรบมือให้กับเขาหลังจากนั้นชายคนนั้นก็เดินเขามาด่าเพื่อผมอีกครั้ง เพื่อนผมจึงตอบไปว่า "เงียบหน่อยค่ะ" และผมพูดว่า "ถ้าพี่มีปั­หาพี่ก็ออกไป ผมนั่งสบายดีไม่มีปั­หา และผมจะไม่ออกไปเพราะผมจะดูหนัง" หลังจากนั้นชายคนนั้นชายคนนั้นก็เดินเข้ามาด่าผมและเพื่อนอีกครั้ง และได้ขว้างม้วนกระดาษในมือมาโดนบริเวณหน้าอกของเพื่อนผม พร้อมชี้นิ้วมาที่หน้าเพื่อนผมในระยะห่างประมาณ 2 คืบ พร้อมกับกระชากกล่อง ็อปคอนในมือเพื่อนผม แล้วสาดมันใส่ผมและเพื่อน แล้วขว้างกล่องป็อบคอนโดนเพื่อนผมและกระเด็นมาโดนผมด้วย แล้วปัดแก้วน้ำอัดลมที่วางอยู่ที่ที่วางแขนจนตกแตก ซึ่งในขณะนั้นคนอื่นๆในโรงก็เริ่มด่าและไล่ผมและเพื่อนผมและเพื่อนจึงยืนขึ้น และผมได้โทรไปที่ 191 ทันที และเดินคุยโทรศัพท์กับตำรวจจนออกมานอกโรง ระหว่างที่เดินออกจากโรง ผมเดินผ่านหน้าชายคนนั้น เขาได้ชี้มาที่เสื้อผม แล้วด่าว่า " ใส่เสื้อบ้าอะไร" *เมื่อออกมานอกโรงหนัง ผมกับเพื่อนรอจนพบกับตำรวจ และบอกกับตำรวจว่าจะรอคู่กรณี เพราะกลัวเขาหนีไป พอหนังจบ คนดูทั้งหมดออกมาตรงประตุทางออก ผมกับเพื่อนได้เข้าไปในโรงหนังอีกครั้ง โดยตั้งใจจะเข้าไปถ่ายรูปสถานที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่ทันไดถ่าย ผู้จัดการโรงหนังได้เข้ามาบอกว่าไม่อนุ­าติให้ถ่ายรูปในโรง เพราะเป็นกฎ ถ้าจะถ่ายต้องทพเรื่องมา ผมจึงขอให้ตำรวจที่ตามเข้าไป มาดูที่เกิดเหตุแทนหลังจากนั้นผมออกไปนอกดรงหนัง พบคู่กรณีและคนดูคนอื่นๆ ยืนรวมกันอยู่กับตำรวจอีกนาย ผมจึงเดินทางไป สน.ปทุมวัน และคุ่กรณีได้ตามมาทีหลังเมื่อถึง สน. ตำรวจได้ให้ผมและลงบันทึกประจำวันและได้ทำเรื่องส่งผมไปตรวจร่างกายที่ รพ.ตำรวจ (ตำรวจบอกว่ามันเป็นขั้นตอนของทางการ) โดยทางร้อยเวรได้นัดผมไปแจ้งความและสอบปากคำเมื่อบ่ายวันนี้ (21 กันยายน) ส่วนหมอที่ รพ.ตำรวจ ได้นัดผมมาฟังผลเมื่อเช้าวันนี้เมื่อเช้าผมจึงไปฟังผลที่ รพ.ตำรวจ และกลับมาที่ สน .ตอนบ่ายระหว่างรอตำรวจเจ้าของคดีเล่าให้ผมฟังว่า " คู่กรณีจะแจ้งความกับเพื่อนในข้อหา ' หมิ่นพระบรมฯ' ถ้าผมกับเพื่อนจำดำเนินคดีคุ่กรณี" ( ดังนั้นเท่าที่ผมทราบล่าสุดคือ ผมและเพื่อนยังไม่ถูกแจ้งข้อหาหมิ่พระบรมฯ )
อย่างไรก็ตาม ผมและเพื่อนก็ได้เข้าแจ้งความตามนัด โดยแจ้งคนละ 4 ข้อหา
ของผมมี
ดูหมิ่นซึ่งหน้า
ร่วมกันทำร้ายร่างกาย
ทำให้เสียทรัพย์
ร่วมกันบังคับข่มขืนใจให้กระทำหรือไม่กระทำการ
ส่วนของเพื่อนผมมี
ดูหมิ่นซึ่งหน้า
ทำร้ายร่างกาย
ทำให้เสียทรัพย์
ร่วมกันบังคับข่มขืนใจให้กระทำหรือไม่กระทำการ (ต่างกันตรงข้อกล่าวหาท 2. ซึ่งผมถูกทำร้ายจากคน 2 คน แต่เพื่อนผมถูกทำร้ายจากคนคนเดียว)
นอกจากนั้น คุณสหายดอกหญ้าได้โทรไปเสนอให้ผมและเพื่อนฟ้องชายคนนั้นข้อหาก่อความวุ่นวายในที่สาธารณะเพิ่มอีก 1 คดี ซึ่งเพื่อนผมที่เป็นทนายกำลังดูข้อกฎหมายอยู่สรุปก็คือ ผมและเพื่อนได้แจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีเขาไปแล้ว ส่วนว่าเขาจะแจ้งผมกลับหรือไม่ ยังไม่ทราบ
หมายเหตุ*
ตอนเกิดเหตุ ผมใส่เสื้อรณรงค์ของเครือข่าย 19 กันยาฯ
ซึ่งขณะนี้ผม กำลังตัดสินใจ ว่าจะ เสนอ ให้เครือข่ายฯ ฟ้องเขาด้วยดีหรือไม่ เพราะผมมองว่ามันเป็นการหมิ่นเครือข่ายฯ
แต่มีแนวโน้มว่าคงไม่
เสนอส่วนสิ่งที่สหายดอกห­้าโพสต์ในกระทู้ แถลงการณ์ กรณีคุณโชติศักดิ์ไม่ยืนในโรงภาพยนตร์เกี่ยวกับกรณีนี้นั้นคลาดเคลื่อนเล็กน้อย ซึ่งคงเป็นเรื่องของการสื่อสาร เพราะโทรคุยกันด้วยความเร่งรีบมากๆ
หลายคนอาจจะคิดว่านี่เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่ผมและเพื่อนมองว่ามันคือประเด็นที่ต้องต่อสู้ เพื่อยืนยันความคิดความเชื่อ 3 ประเด้น คือ
เรามีสิทธิ์ที่จะไม่ยืน
ถ้ามีกฎหมายที่บังคับให้เรายืน กฎหมายนั้นละเมิดสิทธิ์เรา และกฎหมายนั้นต้องถูกยกเลิก
ไม่ว่าใครจะทำอะไร ผิดถูกอย่างไร เขาต่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่จะไม่ถูกทำร้ายร่างกายหรือถูกดูหมิ่น
ผมและเพื่อนอยากให้เป็นบรรทัดฐานว่าการกระทำแบบชายคนนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และต้องได้รับโทษ นอกจากนั้น ผมและเพื่อนได้ตัดสินใจแล้วว่าจะปฏิบัติการยืนยันสิทธิ์ของเราอีก ซึ่งอยากเชิ­ชวนทุกท่านที่รักอิสระภาพ รักความเสมอภาค และต้องการต่อสู้กับความอยุติธรรมโปรดปฏิบัติการร่วมกัน ผมไม่ได้คาดหวังคนมากมาย
มี 10 คน ก็ไป 10 คน
มี 5 คน ก็ไป 5 คน
มี 2 คน ก็ไป 2 คน
แต่ก่อนที่จะไป หากมีคนสนใจก็อยากให้ช่วยกันพูดคุยด้วยว่าเราไปปฏิบัติการที่ไหน, วันไหน (วันธรรมดาหรือเสาร์อาทิตย์ดี), หนังเรื่องอะไร และรอบกี่โมง เมื่อได้ความชัดเจนแล้ว อาจจะมีจดหมายเชิ­ชวนที่ค่อนข้างทางการออกมาอีกครั้ง
หมายเหตุ (อีกครั้ง)
เป็นความบังเอิ­เหลือเกิน ที่วันที่ 20 กันยายน 2550 เป็นวันสำคั­สำหรับผม 2 โอกาส คือ
เป็นวันครบรอบ 3 ปี การก่อตั้งนิตยสารนักศึกษา QUESTIONMARK (ซึ่งเป็นอดีตไปแล้ว?) และ
เป็นวันครบรอบ 1 ปี การก่อตั้งเครือข่าย 19 กันยา ต้านรัฐประหาร (ซึ่งยังมีอยู่หรือเปล่า?) อย่าไงรก็ตาม ผมไม่ได้ไปดูหนังเนื่องในโอกาสพิเศษใดๆ เพียงแค่ต้องไปซื้ออุปกรณ์ทำงานแถวนั้น แล้วบังเอิ­เกิดอารมณ์อยากดูขึ้นมา
ภาณุวัฒน์- เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 9
Registration date : 17/06/2008
ภาณุวัฒน์- เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 9
Registration date : 17/06/2008
เธซเธเนเธฒ 1 เธเธฒเธ 1
Permissions in this forum:
เธเธธเธเนเธกเนเธชเธฒเธกเธฒเธฃเธเธเธดเธกเธเนเธเธญเธ