โครงการพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ เทคนิคแก้ เด็กกทม.อ้วน
เธซเธเนเธฒ 1 เธเธฒเธ 1
โครงการพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ เทคนิคแก้ เด็กกทม.อ้วน
ข่าววันที่ 8 มิถุนายน 2551 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ
นารีนาฏ ภัยวิมุต : เรื่อง
ปิยะบุตร อนุกูล : ภาพ
เด็ก กับ ความอ้วน นั้นในปัจจุบันแทบจะเป็นของคู่กัน เรียกว่าไม่ว่าจะไปดูที่โรงเรียนไหน จะต้องพบเด็กนักเรียนอ้วนเป็นจำนวนมาก
สาเหตุสำคัญหนีไม่พ้นพฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะอาหารขยะ ขนมกรุบกรอบ ประกอบกับขาดการออกกำลังกาย ซึ่งเมื่อปล่อยไว้เนิ่นนานมีแต่จะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอ่อนแอเจ็บป่วยบ่อย ส่งผลกระทบต่อการศึกษาของเด็กที่จะเป็นอนาคตชาติและกระทบไปถึงอนาคตของประเทศเป็นลูกโซ่
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตระหนักถึงปัญหาโภชนาการของเด็กว่า จะเป็นปัญหาสำคัญของชาติ โดยได้มีพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2542 ความว่า
การปฏิบัติงานอย่างที่เราทำกันอยู่คือเพื่อให้เยาวชนของชาติมีสุขภาพอนามัยที่ดี มีความรู้ความสามารถที่จะรู้ทั้งทางด้านวิชาการ ทั้งการงานอาชีพ เพื่อให้เป็นคนที่สมบูรณ์ เป็นทรัพยากรหรือเป็นกำลังสำคัญของชาติ
พระองค์ยังได้ทรงเป็นห่วงปัญหาเด็กอ้วนในเมืองหลวง-กทม.ที่นับวันจะยิ่งมีจำนวนมากยิ่งขึ้น จึงทรงมอบภารกิจที่จะทำให้เด็กห่างไกลจากความอ้วนให้กับโรงเรียนในกทม.นอกเหนือจากที่เป็นแหล่งให้การศึกษา ด้วย โครงการเสริมสร้างศักยภาพเด็กและยาวชน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เชื่อว่าคนในกทม.น้อยคนนักที่จะทราบว่า ปัจจุบันนี้โรงเรียนในสังกัดของกทม.25 แห่ง ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ท่านให้เป็นโรงเรียนนำร่องโครงการ
นายจำเริญ ศิริพงศ์ติกานนท์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม.ได้เล่าที่มาของโครงการให้ฟังว่า โครงการนี้นับเป็นอีกหนึ่งใน 300 กว่าโครงการส่วนพระองค์ ซึ่งได้ทรงริเริ่มไว้เมื่อคราวเสด็จฯ เยี่ยมโรงเรียนปทุมวนาราม เขตปทุมวัน ในเดือนพฤษภาคม 2550
ทรงพบว่าเด็กนักเรียนโรงเรียนกทม.ยังมีปัญหาทางด้านโภชนาการและสุขอนามัย โดยเด็กส่วนหนึ่งอ้วนเกินเกณฑ์มาตรฐาน จึงได้โปรดเกล้าฯให้ก่อตั้งโครงการดังกล่าวขึ้น และนำร่องใน 25 โรงเรียน เพื่อเสริมสร้างโภชนาการและสุขภาพที่ดีให้แก่เด็ก
ขณะที่ยังมีโครงการหลายโครงการที่เกี่ยวเนื่องกันที่ทรงให้ทำควบคู่กัน อาทิ ปลูกผักปลอดสารพิษ โรงเพาะเห็ดพระราชทาน รวมทั้งสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนออมเงินตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
จากที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมอบภารกิจ ยังได้ทรงติดตามผล ซึ่งในวันที่ 10 มิถุนายน 2551 จะเสด็จฯ เยี่ยมโรงเรียนในโครงการ 3 แห่งที่ได้ดำเนินการสำเร็จผลเป็นอย่างดี
ประกอบด้วย โรงเรียนสุเหร่าลำแขก เขตหนองจอก โรงเรียนลอยสายอนุสรณ์ เขตลาดพร้าว และโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ เขตบางขุนเทียน ขณะที่โรงเรียนอีก 22 แห่งจะร่วมจัดนิทรรศการถวายรายงานการดำเนินการให้พระองค์ทรงทราบด้วยเช่นกัน
สยามรัฐ ได้มีโอกาสสนทนากับ นางลินดา โวหารดี ผู้อำนวยการโรงเรียนลอยสายอนุสรณ์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 โรงเรียนที่ทำโครงการได้ประสบผลสำเร็จอย่างดี
ผอ.โรงเรียนลอยสายฯ กล่าวด้วยความตื้นตันในพระมหากรุณาธิคุณว่า โรงเรียนได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมในโครงการพระราชดำริเนื่องด้วยมีสภาพพื้นที่อำนวย ประกอบกับโรงเรียนได้ทำโครงการนำร่องเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ (เกษตรทฤษฎีใหม่) และโครงการด้านสิ่งแวดล้อม (บ่อบำบัดน้ำเสียชีวภาพ) อยู่ก่อนแล้ว
เมื่อเข้าร่วมโครงการจึงได้เสริมโครงการตามพระราชดำริ ได้แก่ โครงการเกษตรปลอดสารพิษ มีกิจกรรมแปลงนา-หญ้าแฝกสาธิต แปลงผักปลอดสารพิษ สวนสมุนไพร โรงปุ๋ยหมักและน้ำชีวภาพ โครงการสนับสนุนด้านการเกษตร มีกิจกรรมเพาะเลี้ยงเห็ดจากโรงเพาะพระราชทาน และกิจกรรมเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์
ผลผลิตที่ได้จากโครงการจะนำไปใช้ประกอบอาหารกลางวันให้แก่เด็กนักเรียน เพื่อให้ได้บริโภคอาหารที่ปลอดจากสารพิษและถูกหลักโภชนาการ และหากผลผลิตที่ได้มีเป็นจำนวนมาก ก็จะนำไปจำหน่ายที่ร้านสินค้าสหกรณ์ เป็นการส่งเสริมการผลิตสร้างรายได้ไปใช้สนับสนุนการศึกษาต่อไป
แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ได้ผลคือ เด็กอ้วนในโรงเรียนลดลง ซึ่งสัมฤทธิผลตามโครงการพระราชดำริ
ก่อนเข้าโครงการบอกได้เลยว่าภาวะเด็กอ้วนมีมาก แต่ตอนนี้ลดลงแล้ว โดยเด็กนักเรียนที่อ้วนเกินเกณฑ์มาตรฐานโรงเรียนยังได้เพิ่มกิจกรรมออกกำลังกาย จนในปีการศึกษาที่ผ่านมาได้ผลดี เด็กที่อ้วนส่วนใหญ่น้ำหนักลดลง
อย่างไรก็ตาม ผอ.ลินดาว่า ตอนเปิดเทอมโครงการได้ผล แต่พอช่วงปิดเทอมเท่านั้นกว่า 2 เดือนที่เด็กอยู่ที่บ้านพออยากกินอะไรก็ได้กิน พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ได้ดูแลเรื่องการกินพอเปิดเทอมมา เด็กก็จะกลับมาอ้วนอีก จึงต้องไปขอความร่วมมือกับทางบ้านให้ช่วยกันดูแล เพราะพระองค์ท่านให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก
โรงเรียนจึงได้เพิ่มการไปเยี่ยมเด็กถึงบ้าน พร้อมให้คำแนะนำผู้ปกครอง และไม่เพียงทำให้เด็กที่อ้วนเกินมาตรฐานได้มีน้ำหนักลดลง ยังได้ช่วยให้เด็กที่ผอมต่ำกว่าเกณฑ์ได้มีน้ำหนักมาตรฐาน ซึ่งความคืบหน้าและผลทุกอย่าง โรงเรียนได้ถวายรายงานผลของโครงการทุกเดือน
โครงการที่ประสบความสำเร็จของโรงเรียน ทำให้เมื่อไม่นานมานี้โรงเรียนได้ถวายการต้อนรับพระราชอาคันตุกะจากประเทศภูฏาน ได้เข้ามาดูงานโครงการพระราชดำริ ซึ่งได้สร้างความภาคภูมิใจเป็นที่ยิ่ง...
-------------------------------------------------
บรรยายภาพ
1 : แปลงผักมื้อกลางวัน
2 : โรงผลิตปุ๋ยหมัก
3 : -
4 : ผอ.ลินดา
5 : โรงเพาะเห็ดพระราชทาน--จบ--
ที่มา: http://www.siamrath.co.th
นารีนาฏ ภัยวิมุต : เรื่อง
ปิยะบุตร อนุกูล : ภาพ
เด็ก กับ ความอ้วน นั้นในปัจจุบันแทบจะเป็นของคู่กัน เรียกว่าไม่ว่าจะไปดูที่โรงเรียนไหน จะต้องพบเด็กนักเรียนอ้วนเป็นจำนวนมาก
สาเหตุสำคัญหนีไม่พ้นพฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะอาหารขยะ ขนมกรุบกรอบ ประกอบกับขาดการออกกำลังกาย ซึ่งเมื่อปล่อยไว้เนิ่นนานมีแต่จะก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพอ่อนแอเจ็บป่วยบ่อย ส่งผลกระทบต่อการศึกษาของเด็กที่จะเป็นอนาคตชาติและกระทบไปถึงอนาคตของประเทศเป็นลูกโซ่
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงตระหนักถึงปัญหาโภชนาการของเด็กว่า จะเป็นปัญหาสำคัญของชาติ โดยได้มีพระราชดำรัสเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2542 ความว่า
การปฏิบัติงานอย่างที่เราทำกันอยู่คือเพื่อให้เยาวชนของชาติมีสุขภาพอนามัยที่ดี มีความรู้ความสามารถที่จะรู้ทั้งทางด้านวิชาการ ทั้งการงานอาชีพ เพื่อให้เป็นคนที่สมบูรณ์ เป็นทรัพยากรหรือเป็นกำลังสำคัญของชาติ
พระองค์ยังได้ทรงเป็นห่วงปัญหาเด็กอ้วนในเมืองหลวง-กทม.ที่นับวันจะยิ่งมีจำนวนมากยิ่งขึ้น จึงทรงมอบภารกิจที่จะทำให้เด็กห่างไกลจากความอ้วนให้กับโรงเรียนในกทม.นอกเหนือจากที่เป็นแหล่งให้การศึกษา ด้วย โครงการเสริมสร้างศักยภาพเด็กและยาวชน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
เชื่อว่าคนในกทม.น้อยคนนักที่จะทราบว่า ปัจจุบันนี้โรงเรียนในสังกัดของกทม.25 แห่ง ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์ท่านให้เป็นโรงเรียนนำร่องโครงการ
นายจำเริญ ศิริพงศ์ติกานนท์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา กทม.ได้เล่าที่มาของโครงการให้ฟังว่า โครงการนี้นับเป็นอีกหนึ่งใน 300 กว่าโครงการส่วนพระองค์ ซึ่งได้ทรงริเริ่มไว้เมื่อคราวเสด็จฯ เยี่ยมโรงเรียนปทุมวนาราม เขตปทุมวัน ในเดือนพฤษภาคม 2550
ทรงพบว่าเด็กนักเรียนโรงเรียนกทม.ยังมีปัญหาทางด้านโภชนาการและสุขอนามัย โดยเด็กส่วนหนึ่งอ้วนเกินเกณฑ์มาตรฐาน จึงได้โปรดเกล้าฯให้ก่อตั้งโครงการดังกล่าวขึ้น และนำร่องใน 25 โรงเรียน เพื่อเสริมสร้างโภชนาการและสุขภาพที่ดีให้แก่เด็ก
ขณะที่ยังมีโครงการหลายโครงการที่เกี่ยวเนื่องกันที่ทรงให้ทำควบคู่กัน อาทิ ปลูกผักปลอดสารพิษ โรงเพาะเห็ดพระราชทาน รวมทั้งสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนออมเงินตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
จากที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมอบภารกิจ ยังได้ทรงติดตามผล ซึ่งในวันที่ 10 มิถุนายน 2551 จะเสด็จฯ เยี่ยมโรงเรียนในโครงการ 3 แห่งที่ได้ดำเนินการสำเร็จผลเป็นอย่างดี
ประกอบด้วย โรงเรียนสุเหร่าลำแขก เขตหนองจอก โรงเรียนลอยสายอนุสรณ์ เขตลาดพร้าว และโรงเรียนคลองพิทยาลงกรณ์ เขตบางขุนเทียน ขณะที่โรงเรียนอีก 22 แห่งจะร่วมจัดนิทรรศการถวายรายงานการดำเนินการให้พระองค์ทรงทราบด้วยเช่นกัน
สยามรัฐ ได้มีโอกาสสนทนากับ นางลินดา โวหารดี ผู้อำนวยการโรงเรียนลอยสายอนุสรณ์ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 โรงเรียนที่ทำโครงการได้ประสบผลสำเร็จอย่างดี
ผอ.โรงเรียนลอยสายฯ กล่าวด้วยความตื้นตันในพระมหากรุณาธิคุณว่า โรงเรียนได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมในโครงการพระราชดำริเนื่องด้วยมีสภาพพื้นที่อำนวย ประกอบกับโรงเรียนได้ทำโครงการนำร่องเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริ (เกษตรทฤษฎีใหม่) และโครงการด้านสิ่งแวดล้อม (บ่อบำบัดน้ำเสียชีวภาพ) อยู่ก่อนแล้ว
เมื่อเข้าร่วมโครงการจึงได้เสริมโครงการตามพระราชดำริ ได้แก่ โครงการเกษตรปลอดสารพิษ มีกิจกรรมแปลงนา-หญ้าแฝกสาธิต แปลงผักปลอดสารพิษ สวนสมุนไพร โรงปุ๋ยหมักและน้ำชีวภาพ โครงการสนับสนุนด้านการเกษตร มีกิจกรรมเพาะเลี้ยงเห็ดจากโรงเพาะพระราชทาน และกิจกรรมเลี้ยงปลาดุกในบ่อซีเมนต์
ผลผลิตที่ได้จากโครงการจะนำไปใช้ประกอบอาหารกลางวันให้แก่เด็กนักเรียน เพื่อให้ได้บริโภคอาหารที่ปลอดจากสารพิษและถูกหลักโภชนาการ และหากผลผลิตที่ได้มีเป็นจำนวนมาก ก็จะนำไปจำหน่ายที่ร้านสินค้าสหกรณ์ เป็นการส่งเสริมการผลิตสร้างรายได้ไปใช้สนับสนุนการศึกษาต่อไป
แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ได้ผลคือ เด็กอ้วนในโรงเรียนลดลง ซึ่งสัมฤทธิผลตามโครงการพระราชดำริ
ก่อนเข้าโครงการบอกได้เลยว่าภาวะเด็กอ้วนมีมาก แต่ตอนนี้ลดลงแล้ว โดยเด็กนักเรียนที่อ้วนเกินเกณฑ์มาตรฐานโรงเรียนยังได้เพิ่มกิจกรรมออกกำลังกาย จนในปีการศึกษาที่ผ่านมาได้ผลดี เด็กที่อ้วนส่วนใหญ่น้ำหนักลดลง
อย่างไรก็ตาม ผอ.ลินดาว่า ตอนเปิดเทอมโครงการได้ผล แต่พอช่วงปิดเทอมเท่านั้นกว่า 2 เดือนที่เด็กอยู่ที่บ้านพออยากกินอะไรก็ได้กิน พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ได้ดูแลเรื่องการกินพอเปิดเทอมมา เด็กก็จะกลับมาอ้วนอีก จึงต้องไปขอความร่วมมือกับทางบ้านให้ช่วยกันดูแล เพราะพระองค์ท่านให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก
โรงเรียนจึงได้เพิ่มการไปเยี่ยมเด็กถึงบ้าน พร้อมให้คำแนะนำผู้ปกครอง และไม่เพียงทำให้เด็กที่อ้วนเกินมาตรฐานได้มีน้ำหนักลดลง ยังได้ช่วยให้เด็กที่ผอมต่ำกว่าเกณฑ์ได้มีน้ำหนักมาตรฐาน ซึ่งความคืบหน้าและผลทุกอย่าง โรงเรียนได้ถวายรายงานผลของโครงการทุกเดือน
โครงการที่ประสบความสำเร็จของโรงเรียน ทำให้เมื่อไม่นานมานี้โรงเรียนได้ถวายการต้อนรับพระราชอาคันตุกะจากประเทศภูฏาน ได้เข้ามาดูงานโครงการพระราชดำริ ซึ่งได้สร้างความภาคภูมิใจเป็นที่ยิ่ง...
-------------------------------------------------
บรรยายภาพ
1 : แปลงผักมื้อกลางวัน
2 : โรงผลิตปุ๋ยหมัก
3 : -
4 : ผอ.ลินดา
5 : โรงเพาะเห็ดพระราชทาน--จบ--
ที่มา: http://www.siamrath.co.th
peeradee- เธเธณเธเธงเธเธเนเธญเธเธงเธฒเธก : 5
Registration date : 09/06/2008
Similar topics
» ???วง????าช?าน??าน????ุธ??
» ?ษต??สนอง????าช????ฯบ?รณาก?รธ?าค???-??ะบ??..
» ?รง??รพ???าช???? ?????วง ???อค????ุข ?อง?วง??ะช?
» ?รง??รพ???าช???ิพ?้นท?????????-???ิน????????
» ???่งข?????????วกับ?รง??รพ???าช????
» ?ษต??สนอง????าช????ฯบ?รณาก?รธ?าค???-??ะบ??..
» ?รง??รพ???าช???? ?????วง ???อค????ุข ?อง?วง??ะช?
» ?รง??รพ???าช???ิพ?้นท?????????-???ิน????????
» ???่งข?????????วกับ?รง??รพ???าช????
เธซเธเนเธฒ 1 เธเธฒเธ 1
Permissions in this forum:
เธเธธเธเนเธกเนเธชเธฒเธกเธฒเธฃเธเธเธดเธกเธเนเธเธญเธ